วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การใช้งาน MT4 เบื้องต้น

การใช้งาน MT4 เบื้องต้น

MT4 หรือ Metatrader 4 เป็นโปรแกรมที่นักเทรดนิยมใช้มาก และโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก็ใช้ MT4 เป็นหลักเนื่องจากว่ามีฟัก์ชันการทำงานค่อนข้างมาครับ ไม่ว่าจะเป็น EA (expert Advisor) ซึ่งเป็น สคริปต์ที่มีไว้ในการเทรดแบบ ออโต้เทรด โดยที่เราไม่ต้องนั่งเล่นเองเป็นต้น และยังสามารถเพิ่มอินเคเตอร์เข้ามาได้อีกจากการไปหาโหลดตามที่ต่าง ๆ หรือถ้าใครเก่ง ๆ หน่อยก็เขียนอินดิเคเตอร์มาใช้เองได้ครับ  ถ้าจะเทรดกับโบรกเกอร์ไหนให้ไปโหลดโปรแกรมจากหน้าเวปของโบรกเกอรนั้นมาใช้นะ ครับ เพราะโบรกเกอร์แต่ละตัวก็ใช้ MT4 คนละตัวกันเหมือนกันแต่ว่าลักษณะหน้าตาจะเหมือนกัน ตัวอย่างที่ผมนำมาให้ต่อไปนี้คือ Metatrader 4 พื้นฐาน
ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า 
ใครที่ยังไม่มีโปรแกรมกดโหลดเลยครับ  Download Here
พอโหลดมาเสร็จแล้วก็ กด Install โปรแกรมกด next ไปเรื่อยๆจนเสร็จครับ
พอเปิดโปรแกรมขึ้นมามันจะ ให้เรากรอกข้อมูลสำหรับ Demo Account ครับกรอกไป ติ๊ก ถูกในเครื่องหมายกด next เรื่อยๆ จนมันเร็จก็เรียบร้อยครับ
 
แต่เวลาเปิด Real Account  ไม่จำเป็นต้องกรอกตรงนี้ครับปิดหน้าต่างไปแล้วไปที่ Menu File --> Login
(Real Account คือ Accountจริงที่สมัครกับโบรกเกอร์นะครับ)
พอเสร็จแล้วจะได้หน้าตาประมานนี้ครับแต่อาจไม่เหมือนศะทีเดียวเพราะว่าอันนี้ผมปรับกราฟไปเยอะแล้ว

เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจุดไหนไว้ทำอะไรบ้างอาจต้องเพ่งดูในบางจุดขออภัยมา ณที่นี้ครับ อิอิ
1. อันนี้จะเป็นส่วนของกราฟครับ
2. อันนี้จะเป้นส่วนเกี่ยวกับการจัดการโปรแกรม
      - Account บอกว่าเราใช้ Account อะไรอยู่มีชื่อเราด้วย
      - Indicator มีอินดิเคเตอรืมาตรฐานต่างๆ ในนี้วิธีการเพิ่มอินดิเคเตอร์ลงในกราฟ ทำได้โดยการลากวางครับ
      - Expert Advisor เป้นคล้ายอินดิเคเตอรื แต่เราไม่ต้องเทรดเอง คล้ายๆ กับบอทอะครับ เปิดทิ้งไว้เลย
      - Custom Indicator อินดิเคเตอร์ที่เราหามาเอง สามารถนำไปไว้ใน Directory ที่ลง MT4 ใน folder expert-->indicatorsครับ
      - Script ไม่แน่ใจอะ แต่ไม่เคยใช้อะ
3. ในส่วนนี้เป้นราคาของ Forexครับ หรือ Marketwatch อะแหละ ปรับเพิ่มลดได้ครับส่วนนี้
4. จะเป็นหน้าต่างที่ไว้ดู position การเทรดModifu ปรับแต่ง stop loss หรือ ตั้ง Target ได้โดยคลิ๊กขวาที่ position ที่ต้องการ แล้วคลิ๊ก Modify Position  แล้วก็มีประวัิติการเทรด ข่าว จดหมายต่าง ๆ ด้วยในส่วนี้ครับ
5. ตรงนี้เอาไว้เปิด order  buy/sell โดยไปที่กราฟที่ตัวต้องการซื้อขายแล้วกดตงนี้ หรือคลิ๊กขวาที่กราฟตัวที่จะทำการซื้อขายแล้ว new orderได้ครับ กดF9ก็ได้เหมือนกัน ดดนหน้าต่างจะมีให้เลือก lot size take profit(target) stop loss ได้ครับ แล้วเลือว่าจะ buy หรือ sell ส่วน lot ใครไม่เข้าใจกลับไปอ่านที่ หัวข้อ leverage
 6. Time Frame ปรับเวลากราฟครับ
7.  เส้นต่างๆ ทั้งแนวตั้งแนวนอน และ Trend line กด แล้วนำไปลากในกราฟครับ
8.   Fibonacchi ใครใช้ก็อยู่ตรงนี้นะครับบอกไว้ก่อนเดี๋ยวหาไม่เจอ หุหุ
9.  เพิ่มกราฟใหม่ได้ตรงนี้ครับ
10. เปลี่ยนรูปแบกราฟว่าจะให้เป็นแบบ เส้น แท่งเทียน หรือ บาร์
มาดูเรื่อง Leverage กันต่อครับ
Leverage 1:100 แปลว่า เราใช้ทุนของเราเองเพียง 1 เพื่อสั่งซื้อ-ขาย 100 เช่น เราจะสั่งซื้อ EUR มาถือไว้ โดยจะซื้อที่ราคา 1.3502 จำนวน 100 USD (คือได้มา 74.0631 EUR) เราไม่ต้องใช้ 100 USD ครับ เราจะใช้เพียง 1 USD เพื่อแลก 74.0631 EUR มาถือไว้ ซึ่งเมื่อเราขายคืนไปที่ 1.3552 หรือกำไรมา 0.0050 แทนที่เราจะกำไรแค่ นั้น จะกลายเป็นว่าเราจะทำกำไรได้ 0.50 usd แปลว่าเราสามารถทำกำไรได้ 50% จากเงินที่เราลง (เราลงเพียง $1 เพื่อทำกำไร $0.50)

แต่ไม่ต้องห่วง นะครับ ว่าเราจะมีเงินพอรึเปล่า เวลามี Leverage แบบนี้ เพราะเวลาเทรดเราจะสั่งเทรดอย่างมาก ไม่เกิน 40% ของทุน (แต่แนะนำที่ 10% ครับ จะได้มีเหลือไว้แก้ตัว) เช่นถ้าเรามีทุน $100 เราก็สั่งเทรดเพียง $10 หรือ 10% (แต่เวลาสั่ง $10 คือ 1,000 unit นะครับ ที่ Leverage 1:100) 10% ที่ใช้ เราจะเรียกว่า used margin เวลาราคาวิ่งขึ้นหรือลง มันจะมาบวก หรือ ลบ ที่ 90% ที่เหลือ หรือที่เรียกว่า available margin หากเราติดลบไปเรื่อยๆ จน available หมด ระบบจะทำการตัดขาดทุน โดยการปิด order นี้ โดยอัตโนมัติ นั่นคือ โบรกเกอร์จะไม่ยอมขาดทุนแทนเราหรอกครับ

คิด คร่าวๆ คือ เราจะทำกำไร (ขาดทุน) ได้ ประมาณ 1% ต่อ pip จากเงินทุนของเรา (คู่อื่นอาจจะไม่ถึง 1% บางคู่ก็มากกว่า เช่น EUR/GBP ตกประมาณ 2% ครับ)

นั่น หมายความว่า ด้วยทุนเพียง $100 (3,400 บาท) คุณจะสามารถทำกำไรได้ถึงจุดละ $1 (สั่งเทรด 10,000 unit) หากทำได้ 10 จุดต่อวัน ก็วันละ $10 หรือ 340 บาท (โดยประมาณ) หรือวันละ 10%

และด้วยทุนเพียง $1,000 (34,000 บาท) เราจะสามารถทำกำไรได้ถึงจุดละ $10 (สั่งเทรด 100,000 unit) หากทำได้ 10 จุดต่อวัน ก็วันละ $100 หรือ 3,400 บาท

หรืออาจจะเริ่มเพียง $1 (34 บาท) โดยจะได้จุดละประมาณ 1 เซ็นต์

ค่อยๆ สะสมไปก็ได้ครับ เพราะมีแล้วคนที่ปั้น $5 จากทุนฟรีที่ Marketiva มีให้ ไปเป็น $1,000 ใน 3 เดือน

ลอง คิดดูเล่นๆู ล่ะกันครับ ถ้าเพียงคุณสามารถทำกำไรได้ 10% ของทุนต่อวัน เพิ่มไปเรื่อยๆ 6 เดือน (120 วันเทรด) จะเป็นเงินเท่าไหร่ จากทุนเพียง $5

เป็น $463,545.34 หรือ 15,765,541.60 บาท ครับ โอ้ววววว พระเจ้าช่วย (ทำได้แค่ 5% ของไอเดียนี้ก็หรูแล้วครับ)

ปกติ EUR/USD จะไม่แรงมาก ทำวันละ 20-30 จุดได้ หากเป็นบางคู่ เช่น GBP/JYP (ทุกวันนี้ผมเล่น GBP/JYP เป็นหลัก เพราะแรง เร้าใจ) ผมเคยทำได้มากสุด +250 จุด เพียงช่วงเวลาที่ผมหลับ (เที่ยงคืน) จนมาถึงเวลาที่ผมตื่น (7 โมงครึ่ง) หรือ 250% ของเงินทุนที่ผมเทรด

ที่ FxOpen ให้เราสามารถ up Leverage ได้สูงสุดถึง 1:500 นั่นแปลว่า เราใช้ทุนตัวเองเพียง $200 ในการเทรด 100,000 unit (หรือ 1 lot จะได้จุดละ $10) เองครับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Leverage ก็เป็นดาบ 2 คม ที่ทั้งทำให้ รวย-จน ได้ในพริบตา

Leverage และการที่มันวิ่งขึ้นลงทั้งวัน นี่แหล่ะครับ ที่ทำให้ Forex สนุก และเร้าใจ

อธิบายเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นครับ...

Leverage ที่มากขึ้น ทำให้ใช้ margin น้อยลงครับ เช่น

หากเราสั่งเทรด 1 Lot (บน mt4 จะมีค่าเท่ากับการเทรด Quantity = 100,000 unit ที่ marketiva)

หากใช้ Leverage 1:100 จะใช้ margin = $1,000 โดย 1 pip จะมีค่า = $10
หากใช Leverage 1:200 จะใช้ margin = $500 โดย 1 pip จะมีค่า = $10
หากใช Leverage 1:500 จะใช้ margin = $200 โดย 1 pip จะมีค่า = $10

สังเกต นะครับ ผมสั่งเทรดจำนวนเท่ากัน คือ 1 Lot (หรือ Quantity = 100,000 unit ที่ marketiva ซึ่ง) และ 1 pip นั้น ไม่ว่าจะใช้ Leverage เท่าไหร่ จะมีค่าเท่ากัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ margin ที่ใช้ลดลง

ข้อดีของ Leverage ที่มากขึ้น คือการได้ใช้ margin ลดลง อาจะทำให้ถือลบ ได้นานอีกหน่อย (ถ้าจะถือจนลบหมดตัว)

แต่ ข้อเสียคือ ถ้ามองถึงการใช้ margin และยังคงดูเรื่อง fund management ที่เราพยายามเทรดไม่เกิน 10% ของทุน การที่ Leverage มากขึ้น เช่น เพิ่มจาก 1:100 ไปเป็น 1:200 แล้วเรายังคงเทรดโดยใช้ margin 10% สิ่งที่จะแตกต่างกันคือ (ถ้าทุน $10,000 เทรด โดยใช้ margin $1,000)

1:100 ต้องสั่งเทรด 1 Lot (หรือ 100,000 Quantity) เพื่อใช้ margin $1,000 จะได้ 1 pip = $10 ซึ่งถ้า -900 จุด จะโดน cut loss

แต่

1:200 ต้องสั่งเทรด 2 Lot (หรือ 200,000 Quantity) เพื่อใช้ margin $1,000 จะได้ 1 pip = $20 ซึ่งถ้า -450 จุด จะโดน cut loss
(จริงๆ marketiva สั่งได้มากสุดแค่ 100,000 แต่ e-mail ขอ support เพิ่มเป็น 200,000 ได้)

ซึ่ง ถ้าจะใช้ให้ถูก ถึงเราจะเลือก 1:200 เราก็ควรจะเทรดที่ 1 Lot (หรือ 100,000 Quantity) เหมือนเดิม เพื่อที่จะใช้ margin ลดลงเหลือ $500 ซึ่ง 1 pip จะยังคง = $10 และจะโดน cut loss เมื่อ -950 จุด (ยืดมาได้ 50 จุด จากที่ใช้ 1:100 ที่ลบได้แค่ 900 จุด)

ป.ล. marketiva เราไม่สามารถเลือก Leverage ได้ครับ ต้องใช้ 1:100 ครับ - สำหรับโบรกอื่น จะเป็นโปรแกรมเทรดที่เรียกว่า mt4 (เช่น FxOpen, FxClearing และ LiteForex) สามารถเลือก Leverage ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น